เรากะสามีทำงานในกรุงเทพฯค่ะ มีลูกชายคนโต(5ขวบ) กะลูกสาวคนเล็ก(2ขวบ)
ตั้งใจจะลงหลักปักฐานในกรุงเทพฯล่ะ เพราะว่าภูมิลำเนาเราสองคน อาชีพของสามีนั้นเงินเดือนไม่สูงเท่าในกทมค่ะ ต่างกันเกินเท่านึง
ดังนั้นเมื่อตัดสินใจตามนี้ ก็ต้องมองหาบ้านเพื่อที่จะพาลูกๆมาอยู่ด้วย
หลังจากตะเวนหาบ้านตั้งแต่ต้นปี เบ็ดเสร็จรวมได้ 10 โครงการพอดีเด๊ะเลยค่ะ
ที่อื่นถึงแม้เราชอบ แต่สามีเฉยๆ ติได้ทุกอย่างอ่ะ ไม่ค่อยกระตือรือร้น
จนล่าสุดวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ชวนกันไปดูโครงการแถวที่ทำงานเรา คือเทพารักษ์
ก่อนไปดู เราหาข้อมูลระยะทางใน google map ทั้งระยะทางจากที่ทำงาน-โครงการบ้านนั้นๆ , จากโครงการบ้านนั้นๆ-โรงเรียน
ซึ่งที่ตั้งใจไปดูเป็นทาวน์เฮ้า ทั้งสองโครงการ ราคา 3.2 ล้าน ขนาดประมาณ 32 ตรว. 2ชั้น 3ห้องนอน 3ห้องน้ำ จอดรถ2คัน
ห่างจากออฟฟิศเราแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ สามีก็ยังไม่โอ ติว่ามันเล็ก แออัด ไม่ค่อยชอบ
สุดท้ายระหว่างทาง เห็นป้ายบิลบอร์ด โครงการนี้จะฉลองปิดโครงการเหลือไม่กี่หลัง ราคาเริ่มต้น 2.95 ล้าน ก็เลยชวนสามีขับเข้าไปดูกัน
โครงการเข้าซอยประมาณ 3 กิโลเมตรแหน่ะค่ะ แต่ยังดีเป็นซอยใหญ่ซึ่งไปทะลุอีกซอยได้
และหน้าโครงการมีรถสองแถววิ่งผ่านไปถึงปากซอยที่ทำงานเราได้ค่ะ (ห่างโรงงานเรา 13 กิโล ห่างโรงเรียน 5 กิโล)
ระหว่างขับเข้าไป สามีก็บ่น บ้านอะไรว่ะ ทำไมลึกจัง รู้ล่ะทำไมถูก บลาๆ อย่าเข้าไปดูเลยเสียเวลาอ่ะ
เราก็พยายามข่มสติอารมณ์ พูดนิ่งๆไปว่า เอาน่า ไหนๆมาล่ะ เข้าไปดูเถอะ
เข้าไปติดต่อสำนักงานขาย สรุปเหลือ 3 หลังสุดท้ายเท่านั้น เดินดูบ้านตัวอย่าง สามีก็ชอบมากมายค่ะ
ล่ะไปดูบ้านของจริงที่ยังว่าง สรุประหว่างนั่งรถกอล์ฟเข้าไป มองเห็นบ้านนี้ล่ะชะงักเลย
เรากะสามีแบบชอบมาก!!! และเป็น 1 ใน 3 ที่ยังว่าง และเป็นหลังใหญ่สุดในบรรดา 3 หลังนั้น
ขอเข้าไปเดินสนามหญ้าบ้านนั้น เดินสำรวจรอบๆบ้าน วกกลับมาที่สำนักงานขาย
เซลล์บอกว่า ถ้าสนใจพี่รีบมาจองนะ วางเงินจอง 10,000 กู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน
เรากะสามีขับรถออกมาด้วยความอยากได้มาก เอาไงๆๆดีหว่า ขับรถกลับมาจนถึงหอแถวพระโขนง แวะกินข้าวเกตุเวย์
กินเสร็จตัดสินใจวกรถกลับไปจองค่ะ จองเสร็จเตรียมเอกสารยื่นกู้
ระหว่างนั้นไปค้นเอกสาร เจอเอกสารซิตี้แบงค์ที่ยื่นบูโรไปปลายปี ปรากฎสถานะ 40
เอาล่ะหว่า 40 คือไร หาข้อมูลว่า สถานะ 40 คือประมาณว่าบัญชีไม่ดีค้างชำระ
วันรุ่งขึ้นคือวันที่ 9 จัดแจงให้สามีเอาเงินไปปิดบัญชีนี้ แล้วขอเอกสารยืนยันการปิดบัญชี และสอบถามสาเหตุของสถานะ40
ทางซิตี้แจ้งว่า สรุปคือเมื่อ2-3ปีก่อน บัตรจะหมดอายุ ทางเราไม่ประสงค์ต่อบัตร ทางซิตี้ก็ยกเลิกบัตรให้เรา สถานะมาเป็น 40
และส่งใบแจ้งหนี้ทุกเดือนเป็นยอดขั้นต่ำ ซึ่งสามีเราก็จ่ายไปทุกเดือน ไม่ได้มีการค้างชำระ เราขอเอกสารชี้แจงส่วนนี้
สรุปสุดท้ายได้มาแค่เอกสารยืนยันการปิดบัญชีเท่านั้น
เราเตรียมเอกสารให้สามีเยอะมากค่ะ เพราะเนื่องจากสามีรับเงินเดือน 2 ที่ อีกที่เพิ่งทำได้ 4 เดือน อีกที่เพิ่งทำได้ 1 เดือน
ต้องขอหนังสือรับรองจากทั้งสองที่ว่าเป็นพนักงานประจำแล้ว และรับรองเงินเดือน และสเตจเม้นบัญชีเงินเดือนของทั้งสองที่
และขอหนังสือรับรองอายุงานจากที่เดิม (อายุงาน 4 ปี) และเราเขียนกำกับอธิบายลงในเอกสารรับรองทุกแผ่นเลยค่ะ ว่าแผ่นนี้เป็นของที่ไหน
ส่วนของเรดี้ เราถ่ายเอกสารโชว์ใบแจ้งหนี้2เดือนย้อนหลัง และใบเสร็จสองเดือนย้อนหลังที่ชำระไป เขียนกำกับแจกแจงเช่นกัน
และหนังสือรับรองการปิดบัญชีค่ะ
ยื่นเอกสารทั้งหมดในวันพุธ ทางกรุงศรีฯ เจ้าหน้าที่สินเชื่อขอให้เราไปขอเช็คเครดิตบูโรและส่งให้เค้าที
เค้าจะช่วยวิเคราะห์ช่วยดันเคสให้ เราส่งเอกสารเพิ่มเติมตัวนี้ให้เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.พ. ค่ะ
ซึ่งวันนั้นก็มี sms จาก TMB แจ้งมาว่า Pre approve ผ่านล่ะ
นับตั้งแต่วันนั้น ยอมรับเลยค่ะว่าลุ้นๆๆๆอยู่ทุกวัน ว่าจะผ่านไหมๆๆ เครียดเรื่องอายุงาน เครียดเรื่องสถานะ 40 นั้น
สุดท้ายวันนี้ กรุงศรีฯผ่านแล้วค่ะ อนุมัติ 100% และ TMBก็ผ่านแล้ว แต่รอคอนเฟิร์มวงเงินวันจันทร์หน้านี้ค่ะ
ส่วน BBL ไม่ผ่าน ติดอายุงานค่ะ ส่วน KTB เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผลออกประมาณพุธหน้าค่ะ
ตอนนี้ผ่านชัวร์ๆ100%ไปล่ะ 1 ที่ อยากบอกว่าดีใจสุดๆค่ะ
เตรียมไปตรวจรับบ้านก่อนโอน เตรียมตกแต่ง ทำเหล็กดัดมุ้งลวด
อยากโอน อยากย้ายเข้าให้ทันช่วงปิดเทอมใหญ่นี่ค่ะ จะได้พาเด็กๆมาอยู่ช่วงปิดเทอม ล่ะเปิดเทอมปี 59 จะพามาเรียนนี้ทั้งสองคนล่ะค่ะ
พิมพ์ยาวหน่อยนะคะ เราอยากจะแบ่งปันว่า
ก่อนยื่นเอกสารกู้สินเชื่อบ้าน อยากให้เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมนะคะ แล้วจะใช้เวลารอไม่นานเลยค่ะ
เพราะถ้าธนาคารขอเอกสารไรเพิ่มเติม กว่าเราจะหา จะให้เค้าก็ช้าไปอีก 2-3 วัน
เราเตรียมให้สามีดังนี้ค่ะ
1.สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส (ทั้ง3รายการ ของเราและสามี)
2.หนังสือรับรองเงินเดือนและสลิปเงินเดือนของสามีทั้งที่เก่าที่ใหม่ (กรณีสามีเราเพิ่งเปลี่ยนงานค่ะ เลยต้องเตรียมให้ครบ)
เขียนแจกแจงหมด แผ่นนี้ที่ไหนยังไง
3.สเตจเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือน ของบัญชีเงินเดือนทั้งสองที่ปัจจุบัน
4.เอกสารยืนยันการปิดบัญชีสินเชื่อ เอกสารการจ่ายเงินย้อนหลัง เอกสารใบแจ้งหนี้ล่าสุดรายการที่มีปัญหาในเครดิตบูโร (สถานะ40)
โชว์ให้ดูว่าตามใบแจ้งหนี้ก็ใส่ว่าชำระขั้นต่ำ 498 บาท
(ซึ่งปกติสามีเราชำระ 1000 แต่ข้อนี้เราผิดกันจริงๆค่ะ น่าจะปิดๆไปซะตั้งนาน ไม่น่ายอมเสียดอกอยู่)
5.ทวิ 50 ของปี 57 จากที่ทำงานทั้ง 2 ที่ของสามีค่ะ
สรุปว่าบ้านหลังนี้
วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.
เวลา 13.00 น. เราเข้าไปดูโครงการ ไปเจอบ้านหลังนี้ แบบไม่ได้ตั้งใจวางแผนไว้
เวลา 17.30 น. วกรถกลับเอาเงินเข้าไปวางจอง
วันพุธที่ 11 ก.พ.
เข้าไปยื่นเอกสารกู้สินเชื่อแบงค์ที่โครงการ
วันศุกร์ที่ 12 ก.พ.
ส่งเมลล์ เอกสารแสดงเครดิตบูโรที่ไปขอเช็คที่ตึก ธอส.สำนักงานใหญ่ ให้กรุงศรี
วันนี้ 20 ก.พ. ผลกรุงศรีออกแล้ว ได้เต็ม 100% ส่วน TMB รอคอนเฟิร์มวงเงินอนุมัติวันจันทร์หน้าค่ะ
รวม 12 วัน ค่ะ พอสามีบอกลูกชาย ลูกชายดีใจยิ้มตามิดเลยค่ะ ถามว่าเมื่อไรจะได้มาอยู่กะป่ะป๊าม่ะม๊าล่ะ
นี่คือบ้านของเรา 4 คน
12วันแห่งการรอคอย วันนี้สมหวังขั้นแรกล่ะค่ะ (บ้านเพื่อลูกๆ^^)
ตั้งใจจะลงหลักปักฐานในกรุงเทพฯล่ะ เพราะว่าภูมิลำเนาเราสองคน อาชีพของสามีนั้นเงินเดือนไม่สูงเท่าในกทมค่ะ ต่างกันเกินเท่านึง
ดังนั้นเมื่อตัดสินใจตามนี้ ก็ต้องมองหาบ้านเพื่อที่จะพาลูกๆมาอยู่ด้วย
หลังจากตะเวนหาบ้านตั้งแต่ต้นปี เบ็ดเสร็จรวมได้ 10 โครงการพอดีเด๊ะเลยค่ะ
ที่อื่นถึงแม้เราชอบ แต่สามีเฉยๆ ติได้ทุกอย่างอ่ะ ไม่ค่อยกระตือรือร้น
จนล่าสุดวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ชวนกันไปดูโครงการแถวที่ทำงานเรา คือเทพารักษ์
ก่อนไปดู เราหาข้อมูลระยะทางใน google map ทั้งระยะทางจากที่ทำงาน-โครงการบ้านนั้นๆ , จากโครงการบ้านนั้นๆ-โรงเรียน
ซึ่งที่ตั้งใจไปดูเป็นทาวน์เฮ้า ทั้งสองโครงการ ราคา 3.2 ล้าน ขนาดประมาณ 32 ตรว. 2ชั้น 3ห้องนอน 3ห้องน้ำ จอดรถ2คัน
ห่างจากออฟฟิศเราแค่ 3 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ สามีก็ยังไม่โอ ติว่ามันเล็ก แออัด ไม่ค่อยชอบ
สุดท้ายระหว่างทาง เห็นป้ายบิลบอร์ด โครงการนี้จะฉลองปิดโครงการเหลือไม่กี่หลัง ราคาเริ่มต้น 2.95 ล้าน ก็เลยชวนสามีขับเข้าไปดูกัน
โครงการเข้าซอยประมาณ 3 กิโลเมตรแหน่ะค่ะ แต่ยังดีเป็นซอยใหญ่ซึ่งไปทะลุอีกซอยได้
และหน้าโครงการมีรถสองแถววิ่งผ่านไปถึงปากซอยที่ทำงานเราได้ค่ะ (ห่างโรงงานเรา 13 กิโล ห่างโรงเรียน 5 กิโล)
ระหว่างขับเข้าไป สามีก็บ่น บ้านอะไรว่ะ ทำไมลึกจัง รู้ล่ะทำไมถูก บลาๆ อย่าเข้าไปดูเลยเสียเวลาอ่ะ
เราก็พยายามข่มสติอารมณ์ พูดนิ่งๆไปว่า เอาน่า ไหนๆมาล่ะ เข้าไปดูเถอะ
เข้าไปติดต่อสำนักงานขาย สรุปเหลือ 3 หลังสุดท้ายเท่านั้น เดินดูบ้านตัวอย่าง สามีก็ชอบมากมายค่ะ
ล่ะไปดูบ้านของจริงที่ยังว่าง สรุประหว่างนั่งรถกอล์ฟเข้าไป มองเห็นบ้านนี้ล่ะชะงักเลย
เรากะสามีแบบชอบมาก!!! และเป็น 1 ใน 3 ที่ยังว่าง และเป็นหลังใหญ่สุดในบรรดา 3 หลังนั้น
ขอเข้าไปเดินสนามหญ้าบ้านนั้น เดินสำรวจรอบๆบ้าน วกกลับมาที่สำนักงานขาย
เซลล์บอกว่า ถ้าสนใจพี่รีบมาจองนะ วางเงินจอง 10,000 กู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน
เรากะสามีขับรถออกมาด้วยความอยากได้มาก เอาไงๆๆดีหว่า ขับรถกลับมาจนถึงหอแถวพระโขนง แวะกินข้าวเกตุเวย์
กินเสร็จตัดสินใจวกรถกลับไปจองค่ะ จองเสร็จเตรียมเอกสารยื่นกู้
ระหว่างนั้นไปค้นเอกสาร เจอเอกสารซิตี้แบงค์ที่ยื่นบูโรไปปลายปี ปรากฎสถานะ 40
เอาล่ะหว่า 40 คือไร หาข้อมูลว่า สถานะ 40 คือประมาณว่าบัญชีไม่ดีค้างชำระ
วันรุ่งขึ้นคือวันที่ 9 จัดแจงให้สามีเอาเงินไปปิดบัญชีนี้ แล้วขอเอกสารยืนยันการปิดบัญชี และสอบถามสาเหตุของสถานะ40
ทางซิตี้แจ้งว่า สรุปคือเมื่อ2-3ปีก่อน บัตรจะหมดอายุ ทางเราไม่ประสงค์ต่อบัตร ทางซิตี้ก็ยกเลิกบัตรให้เรา สถานะมาเป็น 40
และส่งใบแจ้งหนี้ทุกเดือนเป็นยอดขั้นต่ำ ซึ่งสามีเราก็จ่ายไปทุกเดือน ไม่ได้มีการค้างชำระ เราขอเอกสารชี้แจงส่วนนี้
สรุปสุดท้ายได้มาแค่เอกสารยืนยันการปิดบัญชีเท่านั้น
เราเตรียมเอกสารให้สามีเยอะมากค่ะ เพราะเนื่องจากสามีรับเงินเดือน 2 ที่ อีกที่เพิ่งทำได้ 4 เดือน อีกที่เพิ่งทำได้ 1 เดือน
ต้องขอหนังสือรับรองจากทั้งสองที่ว่าเป็นพนักงานประจำแล้ว และรับรองเงินเดือน และสเตจเม้นบัญชีเงินเดือนของทั้งสองที่
และขอหนังสือรับรองอายุงานจากที่เดิม (อายุงาน 4 ปี) และเราเขียนกำกับอธิบายลงในเอกสารรับรองทุกแผ่นเลยค่ะ ว่าแผ่นนี้เป็นของที่ไหน
ส่วนของเรดี้ เราถ่ายเอกสารโชว์ใบแจ้งหนี้2เดือนย้อนหลัง และใบเสร็จสองเดือนย้อนหลังที่ชำระไป เขียนกำกับแจกแจงเช่นกัน
และหนังสือรับรองการปิดบัญชีค่ะ
ยื่นเอกสารทั้งหมดในวันพุธ ทางกรุงศรีฯ เจ้าหน้าที่สินเชื่อขอให้เราไปขอเช็คเครดิตบูโรและส่งให้เค้าที
เค้าจะช่วยวิเคราะห์ช่วยดันเคสให้ เราส่งเอกสารเพิ่มเติมตัวนี้ให้เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.พ. ค่ะ
ซึ่งวันนั้นก็มี sms จาก TMB แจ้งมาว่า Pre approve ผ่านล่ะ
นับตั้งแต่วันนั้น ยอมรับเลยค่ะว่าลุ้นๆๆๆอยู่ทุกวัน ว่าจะผ่านไหมๆๆ เครียดเรื่องอายุงาน เครียดเรื่องสถานะ 40 นั้น
สุดท้ายวันนี้ กรุงศรีฯผ่านแล้วค่ะ อนุมัติ 100% และ TMBก็ผ่านแล้ว แต่รอคอนเฟิร์มวงเงินวันจันทร์หน้านี้ค่ะ
ส่วน BBL ไม่ผ่าน ติดอายุงานค่ะ ส่วน KTB เจ้าหน้าที่แจ้งว่าผลออกประมาณพุธหน้าค่ะ
ตอนนี้ผ่านชัวร์ๆ100%ไปล่ะ 1 ที่ อยากบอกว่าดีใจสุดๆค่ะ
เตรียมไปตรวจรับบ้านก่อนโอน เตรียมตกแต่ง ทำเหล็กดัดมุ้งลวด
อยากโอน อยากย้ายเข้าให้ทันช่วงปิดเทอมใหญ่นี่ค่ะ จะได้พาเด็กๆมาอยู่ช่วงปิดเทอม ล่ะเปิดเทอมปี 59 จะพามาเรียนนี้ทั้งสองคนล่ะค่ะ
พิมพ์ยาวหน่อยนะคะ เราอยากจะแบ่งปันว่า
ก่อนยื่นเอกสารกู้สินเชื่อบ้าน อยากให้เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมนะคะ แล้วจะใช้เวลารอไม่นานเลยค่ะ
เพราะถ้าธนาคารขอเอกสารไรเพิ่มเติม กว่าเราจะหา จะให้เค้าก็ช้าไปอีก 2-3 วัน
เราเตรียมให้สามีดังนี้ค่ะ
1.สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาทะเบียนสมรส (ทั้ง3รายการ ของเราและสามี)
2.หนังสือรับรองเงินเดือนและสลิปเงินเดือนของสามีทั้งที่เก่าที่ใหม่ (กรณีสามีเราเพิ่งเปลี่ยนงานค่ะ เลยต้องเตรียมให้ครบ)
เขียนแจกแจงหมด แผ่นนี้ที่ไหนยังไง
3.สเตจเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือน ของบัญชีเงินเดือนทั้งสองที่ปัจจุบัน
4.เอกสารยืนยันการปิดบัญชีสินเชื่อ เอกสารการจ่ายเงินย้อนหลัง เอกสารใบแจ้งหนี้ล่าสุดรายการที่มีปัญหาในเครดิตบูโร (สถานะ40)
โชว์ให้ดูว่าตามใบแจ้งหนี้ก็ใส่ว่าชำระขั้นต่ำ 498 บาท
(ซึ่งปกติสามีเราชำระ 1000 แต่ข้อนี้เราผิดกันจริงๆค่ะ น่าจะปิดๆไปซะตั้งนาน ไม่น่ายอมเสียดอกอยู่)
5.ทวิ 50 ของปี 57 จากที่ทำงานทั้ง 2 ที่ของสามีค่ะ
สรุปว่าบ้านหลังนี้
วันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.
เวลา 13.00 น. เราเข้าไปดูโครงการ ไปเจอบ้านหลังนี้ แบบไม่ได้ตั้งใจวางแผนไว้
เวลา 17.30 น. วกรถกลับเอาเงินเข้าไปวางจอง
วันพุธที่ 11 ก.พ.
เข้าไปยื่นเอกสารกู้สินเชื่อแบงค์ที่โครงการ
วันศุกร์ที่ 12 ก.พ.
ส่งเมลล์ เอกสารแสดงเครดิตบูโรที่ไปขอเช็คที่ตึก ธอส.สำนักงานใหญ่ ให้กรุงศรี
วันนี้ 20 ก.พ. ผลกรุงศรีออกแล้ว ได้เต็ม 100% ส่วน TMB รอคอนเฟิร์มวงเงินอนุมัติวันจันทร์หน้าค่ะ
รวม 12 วัน ค่ะ พอสามีบอกลูกชาย ลูกชายดีใจยิ้มตามิดเลยค่ะ ถามว่าเมื่อไรจะได้มาอยู่กะป่ะป๊าม่ะม๊าล่ะ
นี่คือบ้านของเรา 4 คน